กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) กล่าวว่างานของเขา "ยากมาก" หลังจากพ่ายแพ้ต่อ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ส่งผลให้ทีมรั้งอันดับ 15 ใน พรีเมียร์ลีก โค้ชชาว โปรตุเกส ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 8 จาก 12 เกมในลีก หลังจาก เจมส์ แมดดิสัน (James Maddison) ยิงประตูชัยในนาทีที่ 13 ปีศาจแดง แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากอีกครั้ง แม้ว่า อาโมริม (Amorim) จะต้องรับมือกับปัญหานักเตะบาดเจ็บถึง 12 คน ทำให้ต้องเติมม้านั่งสำรองด้วยนักเตะดาวรุ่ง อาโมริม (Amorim) วัย 40 ปี ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมอย่างตรงไปตรงมาหลายครั้งนับตั้งแต่เข้ามาคุม ยูไนเต็ด และยังคงรักษาสไตล์การพูดเช่นนี้ในวันอาทิตย์
วิกฤตการณ์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาโมริม เผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในการกอบกู้ทีม
รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) กุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพการคุมทีม หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด ส่งผลให้ทีมร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง ความพ่ายแพ้ครั้งนี้นับเป็นนัดที่ 8 จากการลงสนาม 12 นัดในฤดูกาลนี้ โดยประตูชัยของ เจมส์ แมดดิสัน (James Maddison) ในนาทีที่ 13 เป็นตัวตัดสินชะตากรรมของ ปีศาจแดง ในเกมนี้ สถานการณ์ของทีมยิ่งทวีความยากลำบากมากขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับปัญหานักเตะบาดเจ็บถึง 12 ราย ทำให้ อาโมริม (Amorim) ต้องดึงนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาเสริมทีมชุดใหญ่ ในการแถลงข่าวหลังเกม กุนซือวัย 40 ปี ได้แสดงความจริงใจต่อสื่อมวลชน โดยยอมรับว่าเขากำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานต่อไปด้วยความเชื่อมั่นในปรัชญาการทำทีมของตนเอง สิ่งที่น่าสนใจคือการตัดสินใจของ everythingwin อาโมริม (Amorim) ในการจัดการเกม แม้ว่าทีมจะตามหลังเป็นเวลากว่า 70 นาที แต่เขาเลือกที่จะทำการเปลี่ยนตัวครั้งแรกในนาทีแรกของช่วงทดเวลาเจ็บเท่านั้น โดยส่ง ชิโด โอบิ (Chido Obi) วัย 17 ปี ลงสนาม การตัดสินใจนี้มาจากความระมัดระวังในการพัฒนานักเตะดาวรุ่ง ซึ่งมีถึง 8 คนบนม้านั่งสำรอง อาโมริม (Amorim) ย้ำว่า พรีเมียร์ลีก เป็นการแข่งขันที่ยากที่สุดในโลก และเขาต้องการความระมัดระวังในการใช้งานนักเตะดาวรุ่ง แม้ว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสในอนาคต แต่ต้องเป็นจังหวะที่เหมาะสม ความท้าทายที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผลการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาทีม ปัญหาการบาดเจ็บของนักเตะหลัก และความกดดันจากแฟนบอลที่ต้องการเห็นทีมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อาโมริม (Amorim) ยืนยันว่าเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับตำแหน่งงานของตนเอง แต่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทีมและการยกระดับตำแหน่งบนตารางคะแนน เขาเชื่อมั่นในวิธีการทำงานของตนเองและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อพาทีมกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง
เจ็บปวดเกินทน แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับฤดูกาลที่ย่ำแย่
แฟนปิศาจแดง ยากเกินจะทนดูทีมแข่งขันในเวลานี้ แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องเผชิญกับปัญหานักเตะบาดเจ็บจำนวนมาก แต่สถิติในลีกฤดูกาลนี้ยังคงน่าหดหู่อย่างต่อเนื่อง everythingwin พวกเขาแพ้ 12 จาก 25 เกม (ชนะ 8 เสมอ 5) ซึ่งเป็นจำนวนความพ่ายแพ้มากที่สุดจาก 25 เกมแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1973-74 (13 นัด) ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่พวกเขาตกชั้น พวกเขาแพ้ 8 จาก 12 เกมล่าสุด (ชนะ 3 เสมอ 1) นับตั้งแต่วันที่เริ่มเกมแรกในช่วงนั้น (4 ธันวาคม พบ อาร์เซนอล) มีเพียงทีมที่อยู่อันดับท้ายสองทีมที่แพ้มากกว่า - เลสเตอร์ (9 นัด) และ เซาแธมป์ตัน (10 นัด) มีเพียง เลสเตอร์ (7 ประตู) ที่ทำประตูในครึ่งแรกน้อยกว่า ยูไนเต็ด (9 ประตู) ปีศาจแดงทำประตูในครึ่งแรกได้เพียงลูกเดียวใน 10 เกมหลังสุด - จากจุดโทษของ บรูโน่ เฟอร์นันเดส (Bruno Fernandes) ในเกมพบ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนมกราคม อดีตกองหลัง ยูไนเต็ด แกรี่ เนวิลล์ (Gary Neville) รู้สึกว่ามีสัญญาณการพัฒนาเพียงเล็กน้อยนับตั้งแต่ อโมริม (Amorim) เข้ามารับตำแหน่งแทน เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) เมื่อเดือนพฤศจิกายน "สโมสรจะต้องอดทน แต่ผมอยากเห็นระดับการเล่นที่สูงขึ้น" เขากล่าวกับ สกาย สปอร์ตส์
"นี่เป็นระดับที่ต่ำมากที่ ยูไนเต็ด กำลังแสดงให้เห็นสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า"
"สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ [ช่วงเวลาของ อโมริม] คือการแถลงข่าวของเขา" "นี่เป็นทีม ยูไนเต็ด ที่อ่อนแอมาก"
อดีตกองกลาง ท็อตแน่ม เจมี่ เร้ดแนปป์ (Jamie Redknapp) เสริมว่า "พวกเขาขาดแคลนผู้เล่นระดับท็อปมาก มันต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก" "ปัญหาคือเมื่อคุณเป็นสโมสรขนาดใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณไม่อยากได้ยินสิ่งนี้" "มันยากมากที่จะดูถ้าคุณเป็นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"